337268416_226410643383871_7418971767050422612_n-e1707296810563.jpg

ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ทองคำก็ยังได้รับความนิยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นของขวัญมอบในโอกาสสุดพิเศษต่าง ๆ เป็นของแทนใจที่ใช้แสดงถึงความรัก หรือมาในรูปแบบเครื่องประดับเพื่อเสริมบุคลิก เพิ่มความมั่นใจของผู้ใส่ก็ได้เช่นกัน แต่ว่าสีของทองนั้นไม่ได้มีแค่ “สีทอง” อย่างเดียว เพราะทองยังมีหลากหลายสีด้วยกันไม่ว่าจะเป็นสีทองเหลือง Yellow Gold, ทองคำขาว White Gold และ โรสโกลด์ Rose Gold วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักความแตกต่างของทองแต่ละแบบกัน

ทำไมทองถึงเป็นที่นิยม

ทองคำเป็นที่นิยมด้วยเหตุผลหลายประการ แต่สิ่งสำคัญเลยคือ ทองคำมีมูลค่าสูง มีราคา ด้วยเหตุผลนี้เอง ทองจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา ความมั่งคั่งร่ำรวย อีกทั้งราคาของทองแปรผันตามเศรษฐกิจโลกและมีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลา ทำให้หลายคนนิยมซื้อมาเพื่อลงทุนหรือเก็งกำไร ดังนั้นทองคำจึงกลายเป็นโลหะที่เป็นที่นิยมมากกว่าโลหะชนิดอื่น ๆ

ทองมีกี่สี มีสีอะไรบ้าง – ทองคำเหลือง ทองคำขาว โรสโกลด์

ทองคำเป็นโลหะมีค่าและมีสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์ แต่รู้หรือไม่ว่า ทองคำยังมีสีอื่น ๆ มากมาย ขึ้นอยู่กับส่วนผสม โดยโทนสีของทองคำที่ได้รับความนิยมได้แก่ ทองคำเหลือง (Yellow Gold) ทองคำขาว (White Gold) และโรสโกลด์ (Rose Gold)

  • ทองคำเหลือง (Yellow Gold) ทองคำสีเหลืองเป็นทองบริสุทธิ์ที่ผสมทองแดงและสังกะสี ซึ่งอัตราส่วนของทองแดงจะทำให้สีของทองนั้นมีความเข้มอ่อนแตกต่างกันออกไป โดยทองคำสีเหลืองจะเปล่งประกาย เงางาม และดูแลง่าย เหมือนกับ Brown Rose Cut Diamond with Black Beads 18K Gold Ring ที่มีความสวยงามจากทองคำ 18K เพิ่มความระยิบระยับน่ามองด้วยเพชรสีน้ำตาลและล้อมด้วยเพชรสีดำ เม็ดเล็ก ทำให้มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร
  • ทองคำขาว (White Gold) ทองคำขาวเป็นทองคำที่ผสมโลหะสีขาวอื่น ๆ เช่น แพลเลเดียม นิกเกิล หรือเงิน ทำให้มีความสวยงาม ส่องประกาย อีกทั้งยังมีความทนทานจากโลหะที่ผสมเข้าไป สามารถทำเครื่องประดับทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นแหวนแต่งงาน สร้อยคอ กำไล และต่างหู เหมาะมากสำหรับผู้ที่ชอบเครื่องประดับสีเงินอย่าง Briolette Diamond Necklace ที่มีดีไซน์มินิมอล ใส่ได้ทุกวัน ทุกโอกาสและยังใส่ออกงานได้อีกด้วย
  • โรสโกลด์ (Rose Gold) ทองโรสโกลด์เป็นทองคำที่ผสมโลหะทองแดงลงไปในปริมาณมาก ยิ่งมีส่วนผสมของทองแดงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ทองเป็นสีแดงมากขึ้นเท่านั้น ทำให้โรสโกลด์มีหลากหลายเฉดสีตั้งแต่ชมพูอ่อนจนไปถึงสีส้ม เหมาะสำหรับสาวหวานที่ชอบความหรูหราปนโรแมนติก

ข้อดีข้อเสียของทองแต่ละชนิด

  • ทองคำสีเหลือง (Yellow Gold) จะมีความทนทาน แข็งแรง สามารถขึ้นรูปได้ง่ายเหมาะกับการทำเครื่องประดับได้หลากหลายชนิด แต่มีข้อเสียคืออาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายสำหรับทองที่มีอัตราส่วนทองแดงมาก
  • ทองคำขาว (White Gold) จะมีข้อดีกว่าคือทนทานกว่าทองคำสีเหลือง ดูมินิมอลและหรูหราทันสมัย แต่จะมีข้อเสียคือหมองง่ายกว่าทองคำสีเหลือง
  • โรสโกลด์ (Rose Gold) มีสีสันที่อ่อนหวานและให้ความโรแมนติก เหมาะกับวัยรุ่น คนยุคใหม่ที่เบื่อจากสีทองและสีขาว ด้วยอัตราส่วนของทองแดงที่เยอะกว่าทองชนิดอื่น ๆ จึงมีความทนทานเป็นพิเศษ แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกับทองคำสีเหลืองคือ ผู้ที่แพ้ทองแดงอาจจะก่อให้เกิดการแพ้ได้

ทองคำขาว กับทองขาว ต่างกันอย่างไร

ถึงแม้ว่าชื่อจะคล้ายคลึงกัน แต่สามารถจำได้ง่าย ๆ ว่า ทองคำขาวนั้นเป็นทองที่ผสมโลหะสีขาวลงไป แต่ถ้าเป็นทองขาวจะเป็นโลหะที่มีความหายาก ราคาสูง โดยจะมีเอกลักษณ์สีเทาอ่อน ๆ  ซึ่งสามารถทำให้คนสับสนได้เพราะมีสีคล้ายกับทองคำขาวนั่นเอง

White Diamond เข้ากับทองได้ทุกแบบทุกเฉดสี

เพชรขาวเข้ากับทองได้ทุกแบบทุกเฉดสี เนื่องจากเพชรขาวมีสีที่บริสุทธิ์และสว่าง จึงสามารถสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ดูระยิบระยับและสวยงาม ไม่ว่าตัวเรือนจะเป็นทองคำเหลือง ทองคำขาวหรือโรสโกลด์ เพชรขาวก็จะสามารถขับเน้นความงามของตัวเรือนออกมาได้ อย่างต่างหู White Rose Cut with White Diamond Set in 18K Gold Earrings ที่เปล่งประกายสวยงาม ผสมผสานเพชรสีขาวและสีทองคำ 18K ได้อย่างไรที่ติ เพอร์เฟกเข้ากับการแต่งตัวทุกสไตล์

เป็นอย่างไรกันบ้างกับความแตกต่างของทองแต่ละประเภทซึ่งทางเราก็มีผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยคุณเลือกเครื่องประดับที่ถูกใจ ให้ไม่ว่าจะเป็น แหวน กำไล ต่างหู สร้อยคอ จี้ พร้อมกับเพชรประเภทต่าง ๆ ที่คัดสรรมาเพื่อคุณ โดยสามารถดูสินค้าเพิ่มเติมในหน้าเว็บไซต์ของเราได้ที่ คลิก

สามารถอ่านเรื่องราว หรือบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ เพชร อัญมณี หรือเครื่องประดับเพชร ได้ที่ Petchseeg Blog

Select your currency
THB Thai baht
×

Hello!

Click one of our contacts below to chat on WhatsApp

× How can I help you?